**อัพเดตเพิ่มเติมข้อมูลของ Nikon 1 V2 อ่านได้ที่นี่(คลิ๊ก) หมายเหตุ งานนี้จัดเต็ม
หลังจากการมาของ nikon 1 j2 นั้นก็ทำให้หลาย ๆ คน ต่างรู้อยู่แล้วว่า ยังไง V2 ก็คงต้องตามมาแน่ แต่รู้สึกว่าคราวนี้จะเปิดตัวห่างกันไปหน่อย จากที่ก่อนหน้าทั้ง j1 และ v1 นั้นเปิดตัวพร้อมกัน ทำให้หลาย ๆ คนต่างก็หวังลึก ๆ ว่า nikon v2 จะต้องกำลังถูกปรับปรุงครั้งใหญ่ เพื่อให้โดนใจตากล้องมากที่สุดแน่ ๆ
จะว่ากระโดดลงมาเล่น ในกลุ่มตลาด mirrorless ก็ไม่เชิง เพราะกล้อง mirrorless ที่ nikon ส่งลงสนาม อย่าง j1 และ v1 นั้นไม่ทำให้ตากล้องขั้นโปร และสาวกของ nik ทั้งหลายประทับใจเท่าที่ควร
ถ้าจะลองวัดกันที่ขนาดเซ็นเซอร์ ของ nikon 1 นั้น เรียกได้ว่ามีขนาดเล็กที่สุดในกลุ่มของตลาด
mirrorless แต่ก็ใหญ่กว่าในกลุ่มกล้อง compact ทั่ว ๆ ไป แต่หลังจากลองใช้งานแล้ว แม้เซ็นเซอร์ของ Nikon 1 จะเล็กก็จริง แต่คุณภาพของ ไฟล์ภาพนั้น เรียกว่าไม่ได้ด้อยไปกว่า กล้อง mirrorless ตัวอื่น ๆ ที่มีขนาดเซ็นเซอร์ใหญ่กว่าแม่แต่น้อย
ยอมรับว่าตอนที่ nikon เปิดตัว nikon 1 นั้นหลาย ๆ คนรวมทั้งตัวผม แทบจะพูดเป็นเสียงเดียวกัน ว่า nik กำลังทำกล้องเอาฮาหรือเปล่า แถมกล้องที่เปิดตัวมาทั้ง J1 และ V1 นั้นทั้ง Spec การควบคุมกล้อง และคุณสมบัติ ต่าง ๆ เหมือนกันทั้งหมด ต่างแค่ V1 มีช่องมองภาพ แค่นั้นเอง และยิ่งด้วยเซนเซอร์ ที่เล็ก และยังเป็นกล้อง ที่มี crop factor ขนาด 2.7x ทำให้ ตากล้องที่ชอบถ่าย หน้าชัดหลังเบลอ หรือชอบเล่นกับ dof บ่นอุบว่า ถ่ายยากมาก แถมเมื่อเราใส่เลนส์อะไรเข้าไปก็ทำให้เลนส์ นั้น ๆ กลายเป็นกล้องซูมโดยอัตโนมัติ หาเลนส์ใช้ยากอีกว่างั้น
แต่ด้วย Spec ที่ไม่คุ้นเคยนี้ ก็ใช่ว่ากล้อง nikon 1 จะขายไม่ได้ มันอาจจะไม่โดนใจสำหรับ คอมือหมุน หรือ ตากล้องชั้นโปร ที่ชอบปรับนู่น นี่ นั่น หรือผู้ที่ชอบใช้โหมด การปรับภาพ แบบที่มี art filter แต่สำหรับผู้ที่ชอบอะไรง่าย ๆ แบบว่ายกปุ๊บถ่ายปั๊บ โดยไม่ต้องปรับอะไร แถมให้ภาพที่ดีกว่า กล้อง compact ทั่ว ๆ ไป นี่อาจจะเป็นตัวเลือกที่ดีตัวหนึ่ง
แม้ว่าจะสามารถเจาะกลุ่มลูกค้าได้แล้ว แต่สิ่งที่ทำให้ เหล่าตากล้องกังขา ก็คือ ทำไม nik ต้องทำกล้องที่มี คุณสมบัติเหมือนกัน ถึงสองตัว แต่ต่างกันแค่ช่องมองภาพ แค่นั้นเอง อารมณ์คงจะประมาณว่า V1 น่าจะทำให้โปรกว่ารุ่น J1 ว่างั้นเถอะ
และหลังจากการเปิดตัว ของ J2 ซึ่งถึงแม้ว่าจะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงมาก แต่อย่างน้อยส่วนที่เพิ่มเข้ามา อย่าง Creative Mode ซึ่งเอามาจากกล้องคอมแพคตระกูล Coolpix นั้นก็ทำให้การถ่ายรูปสนุกขึ้นมาอีกไม่น้อย แถมด้วยจอมองภาพที่ความละเอียดสูงขึ้นก็ช่วยได้มาก และนอกจากนี้ยังทำให้สาวก nik ต่างคาดหวังกันว่า V2 คงจะไม่ทำให้สาวก nik ต้องผิดหวัง และหวังว่า คงจะดูเป็นกล้อง ที่โปรมากขึ้นอีกหน่อย และนี่คือสิ่งที่เหล่าสาวก Nikon ต้องการที่จะให้เกิดขึ้นกับ V2
Filter Effect หรือ Art filter
J2 ก็ใส่มาให้แล้ว กล้องอื่น ๆ เขาก็มีกัน ยังไงก็อย่าลืมเอาลง V2 ด้วยล่ะ เพราะนี่เป็นส่วนหนึ่ง ที่ทำให้ตากล้องทั่วไป รู้สึกสนุกกับการถ่ายภาพมากขึ้น
โหมด A P S M
ขอร้องล่ะ ปุ่มปรับโหมดยังเหลือพื้นที่ว่างอีกตั้งเยอะแยะ เอามันออกมาไว้ให้ปรับได้ง่าย ๆ กันหน่อย ลงทุนใส่ช่องมองภาพคุณภาพสูงขนาดนั้น แต่จะไม่ยอมเอาปุ่มปรับโหมดต่าง ๆ อย่าง A P S M มาให้ปรับนู่น นี่ นั่น สักหน่อยเหรอ
เลนส์ f3.5-5.6 บน CX เซ็นเซอร์ กับ DOF
เรื่องนี้มันเกี่ยวเนื่องกันกับ ผู้ที่ชอบ หน้าชัดหลังเบลอ บนเซ็นเซอร์ที่เล็ก ขนาดนี้ น่าจะมีเลนส์ คิต ที่มีรู้รับแสงกว้างกว่านี้อีกหน่อย สักขนาด f2.5 - 3.5 น่าจะใช้ได้
ค่า parameter ต่างๆ
การจัดการ DR เช่น active d-lighting หรือ Noise reduction กล้องค่ายอื่นๆเขาปรับได้ สูง กลาง ต่ำ ออโต้ หรือปิดไปเลย แต่ของ Nikon ปรับได้แค่ ON กับ OFF เท่านั้น สำหรับ Nikon V2 ขอเถอะครับ มันจะช่วยให้กล้องน่าใช้ขึ้นอีกไม่น้อย
ตอนนี้ยังไม่ได้เห็น Spec กันเต็ม ๆ สักทีว่า Nikon V2 จะมาในรูปแบบไหน แต่จะเป็นอะไรที่ดีมาก ถ้ามันได้รับการแก้ไข ดังที่กล่าวมา และใครที่กำลังรอคอยการมาของ V2 คงอดใจรออีกไม่นาน เพราะเราคงจะได้ยินข่าวดีเกี่ยวกับการเปิดตัวของ Nikon V2 เร็ว ๆ นี้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น