ถึงกับอดหลับอดนอน รอดูการเปิดตัวของ Iphone 5 อย่างใจจดใจจ่อ และแล้วก็ออกมาให้ยลโฉมกันจนได้ ซึ่งหลังจากเปิดตัวเพียงไม่กี่ ก็มีทั้งคำบ่นและคำชมออกมามากมาย แต่จะมีดีอย่างไร หรือมีอะไรมาใหม่บ้างนั้น ต้องไปดูกัน
รูปร่างหน้าตา Iphone 5
ไม่พูดถึงคงไม่ได้ เพราะงานนี้เกือบมีดราม่าให้ได้ชม นั่นเพราะว่ามีหลาย ๆ คนที่คาดหวังว่าจะเห็นอะไรใหม่ ๆ แต่แล้วก็ไม่เป็นอย่างที่คิด (เอ่อ..จะเอาอะไรเหรอนี่มือถือนะไม่ใช่ ตู้เย็น) ในขณะที่อีกหลายคนก็รู้สึกพอใจ ด้วยความหนาเพียง 7.6 มม. หนัก 112 กรัม (เบามาก ๆ ) จอ 4 นิ้ว ทำให้ง้าง angry bird ใด้ไกลขึ้นว่างั้น
งานประกอบเรียกว่าแข็งเป๊กเลยดีกว่า เพราะมีรอยต่อน้อยลง จุดต่อต่าง ๆ หายไปกลายเป็นงานชิ้นเดียวกัน ทำให้แข็งแรงมากขึ้น
ภายในยัด ชิป A6 ที่มีความเร็วมากขึ้นอีก 2 เท่า (จะเร็วไปไหน) พร้อมกับ iOS 6 จุดเด่นของ iOS 6 นั่นคือ แผนที่ ซึ่งมาพร้อมกับ search engine ที่มี POI มาด้วย (สำหรับที่ USA) และมีระบบนำทางให้ด้วย มี LTE มาให้ด้วย(เอ่อ Samsung จะฟ้องใหม) iPhone 5 บน LTE จะได้ความเร็วมากกว่าบน WIFI
โดยรวม ๆ แล้วเรียกว่าน่าสนใจไม่น้อยเลยสำหรับ Iphone 5 มาดูสรุปโดยรวมดีกว่า
-ใช้จอเรตินาความละเอียด 326ppi ขนาดจอ 4 นิ้ว เป็นอัตราส่วน 19:6
-Ultra fast wireless ซึ่งก็คือ LTE ,GPRS, EDGE, EV-DO, HSPA, HSPA+, DC-HSDPA LTE
-มีหน้าจอที่ยาวขึ้น ทำให้สามารถเพิ่ม App ได้อีกเป็น 5 แถว
-กล้องหลัง มีระบบจับหน้าคน ได้ 10 คน
-สามารถถ่ายภาพ Panorama ไร้ร้อยต่อ ความละเอียด 28 ล้าน
-กล้องหน้า iPhone 5 เป็น HD 720p
-Facetime บนเครือข่ายมือถือได้ ไม่ต้องพึ่ง WIFI
-ชิป A6 ใน iPhone 5 ทำให้เปิดโปรแกรมเร็วขึ้น 2.1 เท่า Save รูปเร็วขึ้น 1.7 เท่า
-ลำโพงของประกอบด้วยแม่เหล็ก 5 ชิ้น ให้คุณภาพเสียงที่ดีขึ้นแบบ Wide Band Audio
-ไมโครโฟน 3 ตัว คือด้านหน้า ด้านล่าง และด้านหลัง เพื่อจดจำเสียงและตัดเสียงรบกวน
-แผนที่แบบ 3D ใน iPhone 5
-สามารถสั่งให้ SIRI อัพเดทสเตตัสบน Facebook ได้ แจ่มเลยที่นี้
-แบตเตอรี่ของ iPhone 5 อยู่ได้นานขึ้น 8 ชั่วโมงบน LTE และ 10 ชั่วโมงถ้าใช้บน WIFI สแตนด์บาย 225 ชั่วโมง
-สายเชื่อมต่อขนาดเล็กลง แต่สายเก่าสามารถใช้ Adaptor เชื่อมต่อได้
สิ่งที่ยังค้างคาใจก็คงเป็นกล้อง ที่ 8 mp นั้นเรียกว่าไม่ต่างจาก Iphone 4s เลยแต่ก็ได้รับการยืนยันแล้วว่า กล้องใหม่สามารถถ่ายในที่มืดได้ดีขึ้น แต่ทางที่ดีน่าจะเพิ่มพิกเซลหน่อยนะเนี่ย
ราคา iPhone 5 นั้นเรียกว่าทำเอาตาโตเหมือนกันเพราะเรียกได้ว่าคุ้มค่าจริง ๆ กับค่าตัว ซึ่ง 16GB ราคา 199$, 32GB ราคา 299$, 64GB ราคา 399$ ,(แต่ว่า ราคาติดสัญญา 2 ปี)
เปรียบเทียบ Iphone 5 กับ Samsung galaxy S3 เอาอะไรดี
เป็นปัญหาโลกแตกเสียมากกว่า ระหว่างมือถือทั้งสองค่ายนี้ เพราะต่างก็มีข้อดีข้อเสียต่างกัน ส่วนตัวคิดว่า Android นั้นมีความยืดหยุ่นมากกว่า ถึงหลาย ๆคนจะบอกว่าไม่เสถียรไม่แรงหรืออะไรก็แล้วแต่ (แน่ใจเหรอว่าไม่แรง) แต่เรื่อง Apps อะไรต่าง ๆ มีให้ใช้งานพอ ๆ กัน ส่วน Iphone 5 นั้นถึงแม้ว่าจะรู้สึกเหมือนถูกตีกรอบให้อยู่ในวงจรจำกัด แต่เรื่องการใช้งานไม่ต้องพูดถึง ทั้งเรื่อง Apps ต่าง ๆ ก็มีให้ใช้งานหลากหลายและมีคุณภาพ ส่วนเรื่องความแรงและความเสถียรนั้น ส่วนตัวคิดว่า เนื่องจาก Apple ออกแบบทั้งเครื่อง และมี OS เป็นของตัวเอง จึงมีความเสถียรมากกว่า แต่การใช้งานจริงนั้นแทบไม่เห็นความแตกต่างกันเลยทีเดียว ถ้าจะให้เลือกระหว่างสองตัวนี้ บอกตามตรงว่าเลือกไม่ถูกจริง ๆ
Ipod touch และ Ipod nano พระเอกของเรื่อง
สิ่งที่ได้รับการจับตามองกลับไม่ใช่ Iphone 5 อย่างที่คิดเพราะงานนี้ สื่งที่เรียกเสียงฮือฮาได้มากที่สุดคงจะเป็น Ipod Touch ที่เรียกว่าออกแบบได้โดนใจ และได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี มาดูรูปกันดีกว่า
เปิดตัวมากับสีทั้ง 5 สี กับขนาดที่บางมาก ๆ เพียง 6.1 มม. น้ำหนัก 88 กรัม และใช้ชิป A5 ซึ่งแรงใช่เล่นแถมได้กล้อง 5MP แบตสุด ๆ เห็นว่า 40 ชั่วโมงแถมรองรับ siri ด้วย นี่แหละพระเอกเลย ราคาของ Ipod Touch นั้นก็เรียกว่าน่าสอยอย่างแรง ด้วยราคา 299$ ความจุ 32GB และ 64GB ขายราคา 399$ เป็นไงล่ะโดนล่ะสิงานนี้
ส่วน Ipod nano นั้นก็เรียกเสียงฮือฮาได้เหมือนกัน แต่ยังไม่เท่า Ipod Touch มาดูรูปกันก่อน
Icon ของ Ipod nano นั้นไม่ค่อยโดนใจเท่าไร …แต่ถ้าไม่แคร์สื่อใด ๆ งานนี้คงโดนใจบางคนบ้างล่ะ เพราะราคาของ Ipod nano นั้นอยู่ที่ 149$ แถมยังมีความจุ 16GB แน่ะ
สรุปโดยรวม
ส่วนตัวแล้วรู้สึก ไม่ Wow!! อย่างที่คิดเลยกับ Iphone 5 เพราะเอาเข้าจริง ๆ ตอนนี้ใจรู้สึกเอนเอียงไปทาง Galaxy note 2 มากกว่า เพราะรู้สึกว่าตอบโจทย์ได้ดีกว่า แต่ที่ wow!! จริง ๆ รู้สึกจะเป็น Ipod touch ที่เรียว่าดีไซน์โดนใจสุด ๆ แต่สำหรับ Ipod nano ก็รู้สึกเฉย ๆ
เอาเข้าจริง ๆ ชิป A6 ที่ว่าแรงนั้น ยังไม่รู้กันเลยว่าเร็วขึ้นขนาดไหน เพราะค่ายอื่น ๆ เขาก็ไป cpu แบบ 4 หัวกันหมดแล้ว…เรียกว่าแรงไม่แพ้กัน แถมแรมค่ายอื่น ๆ ก็จัดเต็ม ๆ ไม่มีกั๊ก
สุดท้ายแล้ว ราคาก็เป็นส่วนหนึ่งในการตัดสินใจซื้อมือถือดี ๆ สักเครื่อง ยังไงอย่าลืมดูความต้องการของตัวเองด้วยแล้วกัน ว่าต้องการมือถือแบบไหน เหมาะสมกับราคาหรือไม่ และการใช้งานของเราเหมาะสมกับมือถือเครื่องนั้นใหม อย่างซื้อเครื่องละ 20,000 มาใช้งานแค่ 2,000 คงไม่ดีแน่
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น