มาดู Honda Freed กัน มันดีหรือไม่ดีอย่างไร

สำหรับใครที่กำลังมอง ๆ เจ้า Honda Freed ว่ารถคันนี้มันดีใหม หรือมันใช้งานเป็นอย่างไร ลองมาอ่านที่บทความนี้กันดีกว่า อ๊ะ ๆ ผมไม่ได้บอกว่า อ่านจบแล้วจะทำให้ตัดสินใจได้เลยนะ  แค่มันอาจจะช่วยให้คนที่มีปัญหา ที่กำลังไม่รู้ว่าจะซื้อ Honda Freed หรือไม่ ได้ตัดสินใจง่ายขึ้นอีกนิด

        นี่คงจะเป็นปัญหาของใครอีกหลาย ๆ คน ที่กำลังมองหารถสำหรับครอบครัวดี ๆ สักคัน ซึ่ง Honda Freed ก็คงเป็นหนึ่งในรถที่ทำให้หลาย ๆ ปวดหัว เพราะเมื่อเปรียบเทียบกับรถครอบครัว หรือ รถ SUV รุ่นอื่น ๆ แล้ว มันก็ออกจะขาด ๆ เกิน ๆ อยู่เหมือนกัน แต่ถ้าลองมองดูรถค่ายอื่น ๆ ในตลาด ก็คงจะดูออกว่า ไม่มีรถคันไหนที่มันออกแบบได้สมบูรณ์แบบหลอก ดังนั้นเรามาดูว่า Honda Freed  เหมาะสมกับใคร และการใช้งานเป็นอย่างไรดีกว่า

 

เครื่องยนต์ของ Honda Freed

       เครื่องยนต์ของ Honda Freed ทั้ง SE และ EL ต่างก็มาพร้อมกับเครื่องเบนซินขนาด 1.5 ลิตร 4 สูบ 16 วาล์ว แรงม้าสูงสุดที่ 118 แรงม้า เกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด และมีพวงมาลัยแบบ EPS ที่ทำให้ผ่อนแรงได้เวลาเลี้ยว นี่แหละรถสำหรับครอบครัว และ คุณผู้หญิงเขาล่ะ

Honda Freed รุ่น SE และ รุ่น EL ต่างกันอย่างไรนะ 

      แค่สองรุ่นนี้ก็เลือกลำบากจะแย่แล้ว แน่นอนว่าสิ่งที่แตกต่างกันอย่างแรก ก็ต้องเป็นราคา สำหรับHonda Freed SE จะมีราคาอยู่ที่ 839,000 บาท ส่วนรุ่น EL มีราคา 949,000 บาท เอ่อถ้าอยากได้สีขาวเพิ่มเงินขึ้นอีก 10000 บาทด้วยนะ(ทำยากเหรอ - -a)

      Honda Freed SE มีการปรับปรุงจากรุ่นก่อนเยอะมาก เช่น กระจังหน้าใหม่ โคมไฟหน้าสีเงิน คิ้วฝากระโปรงท้ายใหม่แบบโครเมี่ยม ล้อดีไซน์ใหม่ และให้สปอยเลอร์หลังมาด้วย

     ส่วนภายในก็ได้เพิ่มเติมใหม่ และตกแต่งอย่างสวยงาม อย่างเช่นพนักเท้าแขนทั้งแถวหน้า และ แถวที่สอง ส่วนคอนโซลกลางมาพร้อมกับจอแอลซีดี ระบบสัมผัสขนาด 7 นิ้ว และยังมีช่องเชื่อมต่อ USB และ AUX มาให้ด้วย 

     ส่วน Honda Freed EL จะมีเหมือนที่รุ่น SE มีทุกอย่างตามที่กล่าวมาด้านบน แต่จะมีการเพิ่มเติม พวงมาลัยแบบมัลติฟังก์ชั่น แบบว่าสามารถปรับควบคุมเครื่องเสียง ได้บนพวงมาลัยว่างั้น มีเบาะหนัง ทั้งยังมีจอแอลซีดี ขนาด 10 นิ้ว เพิ่มมาไว้ให้แถวหลัง ได้ดูอย่างสบาย มีกล้องมองหลังไว้สำหรับถอย ไหนจะยังสามารถใช้บลูทูธ สำหรับใช้มือถือเพื่อความปลอดภัยขณะขับขี่ได้

    ทั้งสองรุ่นทั้งรุ่น SE และรุ่น EL ยังคงมีประตูแบบเลื่อนปิด-เปิดแบบอัตโนมัติ ซึ่งเป็นจุดเด่นของรถคันนี้เช่นเดิม อ้อ…เลื่อนได้ทั้งซ้าย และขวาด้วยนะ…

Honda Freed กับความคุ้มค่า

     สำหรับทั้งสองรุ่นทั้ง SE และ EL นั้นมีราคาต่างกันอยู่ 1 แสนบาท แต่ต้องยอมรับ ว่ารุ่น EL นั้นได้จัดเต็มได้เกินราคาจริง ๆ ถ้าหากว่า มีงบประมาณมากพอก็อยากจะแนะนำให้ใช้รุ่น EL เถอะครับ ^_^

     ส่วนความคุ้มค่าสำหรับการใช้งาน คงต้องดูจำนวนสมาชิก กับใช้งานว่าเป็นแบบไหน หากว่าไปแค่ใกล้ ๆ  Honda Freed สามารถรองรับผู้โดยสารได้ถึง 6-7 คนได้อย่างสบาย ๆ 

     แต่ถ้าหากว่ามีการเดินทางไกล หรือไปต่างจังหวัด คงต้องดูว่า มีของหรือสัมภาระไปเยอะหรือไม่ เพราะว่ามันจะไปเบียดเบียนที่นั่งของสมาชิกท่านเข้า แต่ก็สามารถช่วยได้โดยการ เพิ่มกล่องที่เก็บของบนหลังคา ซึ่งช่วยได้พอสมควร นอกเสียจากท่านจะขนของปานว่าจะย้ายบ้านนั่นแหละ ถึงจะไม่พอจริง ๆ

     สำหรับอัตราการกินน้ำของ Honda Freed ก็ไม่ได้เลวร้ายอะไร ถ้าวิ่งในเมืองรถติดก็ประมาณ 9-11 กม./ลิตร ถ้าวิ่งนอกเมือง 11-12 กม./ลิตร ก็ยังพอไหว แต่ถ้าไปต่างจังหวัดวิ่งเร็ว 100-110 กม./ช.ม. ก็ประมาณ14-15 กม./ลิตร  ดูตัวเลขเหมือนกินน้ำมันเยอะ แต่อย่าลืมนะ ว่าเราขนของไปได้เยอะแค่ไหน เฉลี่ยค่าน้ำมันแบ่งออกเป็นรายคน แล้วมันเหลือไม่เท่าไรหลอกเชื่อสิ …..^_^

Honda Freed กับ Captiva เลือกอะไรดีล่ะ

      ยอมรับว่าเรื่องช่วงล่าง ของ Captiva นั้น แน่นปึ้ก!! ทั้งความนุ่มขณะขับขี่มันเหนือว่า Honda Freed ทั้ง SE และ EL อย่างเห็นได้ชัด ส่วนความโปร่งโล่งภายใน คงจะพอ ๆ กันออกจะเอนเอียงไปทาง Freed นิด ๆ ส่วนเรื่องการเดินทางไกล และเรื่องช่องใส่สัมภาระ  เราต้องคิดอย่างนี้ว่า ไม่ว่ารถอะไร ถ้ามีคนนั่งไปเต็ม ก็ไม่มีช่องเก็บของเหลือเหมือน ๆ กันนั่นแหละ…

      สุดท้ายก็วกวน มาดูที่ความคุ้มค่า กับการใช้งาน และ ราคาค่าตัว ที่ต่างกันค่อนข้างมาก เอาเข้าจริง ๆ Honda Freed ถือว่าพอเพียงสำหรับการใช้งานจริง ๆ