Chevrolet Trailblazer ขับดีใหม ใช้แล้วเป็นไงมาคุยกัน

กว่า Admin จะมีโอกาสได้ลูบ ๆ คลำ ๆ ตัวเป็น ๆ ของเจ้า เชฟโรเลต เทรลเบลเซอร์ (Chevrolet Trailblazer) ก็เล่นเอารอจนเหงือกแห้ง แหมก็คนใกล้ ๆ ตัวไม่มีใครซื้อมาให้คลำสักที แต่พอดีว่าเมื่อไม่นานนี้มีโอกาสได้ลองจับตัวเป็น ๆ เข้าจนได้ จึงจะเข้ามาแชร์ประสับการณ์เกี่ยวกับรถคันนี้เสียหน่อย สำหรับใครที่กำลังมีคำถามว่า เทรลเบลเซอร์ (Trailblazer) ขับดีใหม ,ใช้แล้วเป็นอย่างไร , อัตราการบริโภคน้ำมันเท่าไร , เบาะนิ่มนั่งสบายใหม , ช่วงล่างเป็นอย่างไร ,มีที่นั่งก็ที่นั่ง ,และอีกมากมาย บลา ๆ ๆ  เดี๋ยวมาคุยกันดีกว่า ว่าแล้วลองไปดูกันเลย..

รูปร่างหน้าตาของ Chevrolet Trailblazer

       ยกให้เป็นรถ PPV ที่สวยมาก ๆ คันหนึ่งสำหรับ Admin เลย เพราะเจ้า Trailblazer นั้นมันมีหน้าตาที่ดุดันดีจริง ๆ เห็นปุ๊บ รู้เลยว่า รถคันนี้มันต้องเป็นขาลุยแน่ ๆ เอาเป็นว่าเรื่อง หน้าตา มันก็เป็นความชอบส่วนบุคคล บางคนชอบ บางคนไม่ชอบ ก็ไม่ขอพูดถึงมากแล้วกันเนาะ..

       แต่มาดูภายในกันดีกว่า ….อืม…… ชื่อมันก็บอกอยู่แล้วว่าเป็นรถแนว PPV หรือกระบะดัดแปลง ดังนั้นภายในของ โคโลราโด เป็นอย่างไร ภายในของ Trailblazer ก็เป็นอย่างนั้น บางคนอ่านแล้วทำหน้าเสียดายน่าจะสวยกว่านี้ …แต่ เอ่อ..อยากจะแจ้งว่า ภายในของ Virgo กับ Fortuner ก็เป็นแบบเดียวกัน และภายในของ มิตซูบิชิ ไททัน กับปาเจโร่ ก็แบบเดียวกัน เพราะฉนั้นอย่าได้เสียใจไปเลยนะ…

เครื่องยนต์ของ Chevrolet Trailblazer

       ด้วยเครื่องยนต์เดิมของ โคโลราโด มีอยู่ 2 ขนาดนั่นก็คือ 2.5 ลิตร และ 2.8 ลิตร และเจ้าเครื่องรุ่นนี้ก็ถูกจับใส่ลงไปใน เทรลเบลเซอร์ ด้วย ซึ่งในเครื่อง 2.5 ลิตรเครื่อง ยนต์ ดูราแม็กซ์ ดีเซล 2.5 ลิตร ระบบคอมมอนเรล 4 สูบ 16 วาล์ว 150 แรงบิดสูงสุด 350 นิวตันเมตร ที่ 2,000 รอบ / นาที แรงขึ้น ประหยัดขึ้น ด้วยระบบหัวฉีดไดเร็คอินเจคชั่น ที่มาพร้อมกับเทอร์โบและระบบอินเตอร์คูลเลอร์ ทำหน้าที่ควบคุมอุณหภูมิและความหนาแน่นของอากาศที่ไหลเวียนในเครื่องยนต์ เพื่อการจุดระเบิดที่ดีกว่า สร้างแรงม้าและแรงบิดอย่างมีประสิทธิภาพ ทำงานร่วมกับเกียร์ธรรมดา 5 สปีด ที่ถูกออกแบบอัตราทดให้ครอบคลุมทุกการขับขี่ ทั้งในเมืองและการใช้งานทั่วไป พร้อมความนุ่มนวลขณะเปลี่ยนเกียร์

        ส่วนในรุ่น 2.8 ลิตร เครื่องยนต์ ดูราแม็กซ์ ดีเซล 2.8 ลิตร ระบบคอมมอนเรล 4 สูบ 16 วาล์ว 180 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 470 นิวตันเมตร ที่ 2,000 รอบ / นาที แรงสุด ประหยัดสุด ด้วยระบบหัวฉีดไดเร็คอินเจคชั่น ที่มาพร้อมกับระบบเทอร์โบแปรผัน (Variable Geometry Turbo) และระบบอินเตอร์คูลเลอร์ ที่ช่วยสร้างแรงบิดในรอบต่ำควบคุมด้วยเซอร์โวมอเตอร์ที่สั่งการโดยสมองกล ECM (Engine Control Module) เพื่อสมรรถนะการขับขี่ที่เหนือกว่า ให้พลังแรงและประหยัดน้ำมันอย่างแตกต่าง ทำงานร่วมกับเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด (6-AT Active Select) สร้างความต่อเนื่องในการส่งถ่ายกำลัง และประหยัดน้ำมันยิ่งขึ้นด้วยเกียร์โอเวอร์ไดรฟ์ 2 อัตราภาค พร้อมระบบ Active Select ให้คุณควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ได้ตามต้องการ ทำให้รถคันนี้มีแรงลากจูงที่เยอะมาก ๆ  และหลาย ๆ คนอาจจะเคยเห็นการทดสอบแล้ว ที่เจ้ารถคันนี้สามารถลากจูง ได้ถึง 3 ตัน ซึ่งมากกว่าน้ำหนักตัวรถเสียอีก… และถ้าหากได้ลองขับรถเปล่า ๆ ก็ระวังกันหน่อย เพราะอัตราเร่งในรอบต่ำไม่ปรู๊ดปร๊าดเท่าที่ควร อาจจะมีอึดอัดเวลาแซง แต่เรื่องช่วงล่างหายห่วง นิ่มและเกาะถนนดี

ราคาของ Trailblazer แต่ละรุ่น

        กับรุ่นย่อยที่มีให้เลือกหลากหลายตัวเลือก แต่ Admin อยากจะแนะนำให้เลือกรุ่นที่มีเครื่องยนต์ขนาด 2.8 ลิตรขึ้นไป เพราะถ้าไปขับ 2.5 ลิตร อาจจะเสียอารมณ์เอาได้ โชคยังดีที่ในรุ่น 2.5 ราคาประหยัด มีมาขายให้แค่รุ่นเดียว

รุ่น 2.5 ลิตร LT ขับเคลื่อนสองล้อราคาค่าตัว 1,059,000 บาท
รุ่น 2.8 ลิตร LT ขับเคลื่อนสองล้อราคาค่าตัว 1,249,000 บาท
รุ่น 2.8 ลิตร LT ขับเคลื่อนสี่ล้อราคาค่าตัว 1,299,000 บาท
รุ่น 2.8 ลิตร LTZ ขับเคลื่อนสี่ล้อราคาค่าตัว 1,389,000 บาท
รุ่น 2.8 ลิตร LTZ1 ขับเคลื่อนสี่ล้อราคาค่าตัว 1,489,000 บาท

           และยังมีออฟชั่นเจ๋ง ๆ มาให้อย่าง มีไฟ Projector, ตัว Top ล้อ 18 นิ้ว(เฉพาะรุ่นLTZ1 รุ่นอื่น ๆ เป็น 16 นิ้ว) , แอร์ออโต้, ตัว top Smart media CD/DVD/MP3 7 inch touch screen with navigator

         ส่วนความแตกต่างของแต่ละรุ่น อาจจะบรรยายออกมาไม่หมด เอาเป็นว่าใครสนใจก็เข้าไปดูในเว็บของ Chevrolet เอง แล้วเปรียบเทียบกันได้เลย

เบาะนั่งของ Trailblazer

          สำหรับใครที่อยากได้เบาะหนัง เอาไว้นั่งนิ่ม ๆ ก็คงต้องหันไปมองในรุ่น 2.8 ลิตร LTZ ขับเคลื่อนสี่ล้อราคาค่าตัว 1,389,000 บาท กับรุ่น 2.8 ลิตร LTZ1 ขับเคลื่อนสี่ล้อราคาค่าตัว 1,489,000 บาท เพราะสองรุ่นนี้มีเบาะหนังมาให้เลย แต่รุ่นอื่นถ้าอยากได้ต้องไปหาใส่เอาเอง

           ส่วนจำนวนที่นั่งก็เป็นแบบ 7 ที่นั่ง (แบบ 5+2 ที่นั่ง) ถ้าถามว่านั่งสบายทุกที่นั่งใหม ขอบอกว่ายกเว้น 2 ที่นั่งสำรองท้ายไว้แล้วกัน เพราะที่นั่งอื่น ๆ กว้างขวางนั่งสบายและนิ่มดี แต่สองที่นั่งท้ายนี้ มันแคบไปหน่อยสำหรับคนตัวใหญ่ … ถ้าเอาไว้ให้เด็ก ๆ ก็สบาย ๆ …

เปรียบเทียบ Trailblazer กับ Captiva

           หลาย ๆ คนอาจจะงง ว่าในเมื่อค่ายเชฟ มีแคปติวาอยู่แล้ว ทำไมต้องเอา เทรลเบลเซอร์มาขายอีก อืม..นั่นสิ …แต่หลังจากลองไล่อ่านถึงสมรรถนะของรถแล้ว…ก็รู้ว่าทั้ง เทรลเบลเซอร์ และ แคปติวา เป็นรถคนละแบบกัน เพราะแคปติวาเป็น SUV พันแท้ การออกแบบจะเน้นไปในทางสไตล์รถเก๋ง หรูหราทั้งภายนอกและภายใน ประหยัดน้ำมันกว่า ขับนิ่ม เกาะถนนมากกว่า และราคาก็แพงกว่าเยอะด้วย แต่ถ้าเน้นลุย เทรลเบลเซอร์สามารถตอบโจทย์ได้มากกว่า เพราะเป็น PPV หรือกระบะดัดแปลง มีแรงลากจูงมากกว่า ตัวรถออกแบบได้แข็งแรงบึกบึนกว่า ลุยไปได้ทุกที่ แต่แคปติวานั้นลุยไม่ได้ ภายในวัสดุเป็นแบบรถกระบะ จึงมีราคาถูกกว่า

            ช่วงล่างของเทรลเบลเซอร์ อาจจะแข็งกว่าของ แคปติวาอยู่หน่อย (จะว่าไปก็แตกต่างกันชัดเหมือนกัน)  การยึดเกาะถนน แคปติวาก็ดีกว่า แต่ถ้าลงโคลนอย่าได้เอาแคปติวาไปลงล่ะ…

Trailblazer หรือ Fortuner หรือ All New CR-V ดีนะ

            ถ้าจะเอารถที่มี 7 ที่นั่ง คงต้องตัด All New CR-V ออกไปเป็นตัวแรก เพราะคันนี้มีแค่ 5 ที่นั่ง นอกเสียจากว่าคุณจะไม่สนใจมันเท่านั้นเอง

             อยากได้ศูนย์บริการดี ซ่อมไวเคลมเร็ว ณ ตอนนี้ CR-V กับ Fortuner อาจจะเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า ไม่ใช่เพราะว่าศูนย์เชฟไม่ดี แต่เพราะ Honda กับ Toyota นั้นอยู่มานานมาก อะไหล่ต่าง ๆ มีกระจัดกระจาย และหาง่ายกว่า แถมเป็นค่ายที่อยู่มานาน จึงมีทั้งช่างซ่อมมากมาย

            อยากได้ที่ช่วงล่างนิ่มสบาย คงต้องไป CR-V เพราะรถคันนี้เป็นรถสไตล์เก๋ง ไม่ได้ถูกออกแบบมาให้ลุยเท่าไร ลุยได้บ้างแต่ไม่มาก

             ประหยัดน้ำมันเป็นเลิศ ณ ตอนนี้ ถ้าเทียบเป็นบาทต่อกิโล ก็คงจะต่างกันไม่มากเท่าไร แต่ CR-V เติมน้ำมัน E85 ได้ ซึ่งถือว่าเป็นทางเลือกที่ดีพอสมควร แต่ค่ายอื่น ๆ ก็ประหยัดเหมือนกัน ถ้าวิ่งนอกเมือง ความเร็วคงที่ 100-120 คงจะ 10-12 กิโลเมตร/ลิตร คงจะได้อยู่…

สรุป

       เป็นรถที่เหมาะกับกิจกรรม Out door ทั้งหลายจริง ๆ กับ Chevrolet Trailblazer แถมยังเป็นรถที่สดใหม่ มีกำลังสูง ประหยัดน้ำมันพอใช้ได้ ถ้าใครอยากได้รถ PPV ดี ๆ คันนี้เป็นตัวเลือกที่ดีอีกคันหนึ่ง ยังไงก็ลองไปทดลองขับ ลองจับกันดู ส่วนเรื่องศนย์บริการ Admin เชื่อว่าครั้งก่อน ๆ เจ้าตลาด ๆ อย่างหลาย ๆ ค่ายก็เคยบริการไม่ถูกใจใครหลาย ๆ คนเหมือนกัน ส่วนเราก็ต้องดูกันต่อไปว่า Chevrolet  จะพัฒนาศูนย์บริการเท่าทันรถเจ้าตลาดหรือไม่…