เห็น MAZDA2 RACING SERIES 2012 แล้วมันเจ็บจิ๊ดไปข้างในแทนคนที่ออก MAZDA2 มาก่อนหน้า เพราะว่ารถคันนี้มันสวยจริง ๆ สำหรับใครที่ต้องการอยากจะรู้ว่าเจ้า MAZDA2 RACING คันนี้มันดียังไง มันใช้ดีใหม หรือมันแตกต่างจาก MAZDA2 ธรรมดายังไง ต้องอ่านแล้วล่ะ อ้อ..อ่านแล้วรีบตัดสินใจเลยนะ ว่าจะซื้อหรือไม่ซื้อ เพราะรุ่นนี้มีแค่ 1000 คันเท่านั้น
คงจะเคยจำกันได้ว่าก่อนหน้านี้ Mazda เคยปล่อย Racing Series ชุดแรกจำนวน 600 คัน มาให้ได้ชมกันแล้ว และมันทำให้ใครหลาย ๆ คนถึงกับถามถึงกันอย่างไม่ขาดปาก และทนต่อกระแสเรียกร้องไม่ไหว จึงได้จัดมาอีก 1000 คัน ซึ่งสาเหตุที่ไม่ผลิตมากกว่านี้ คงจะเป็นเพราะกลัวว่ามันจะไม่ได้ชื่อว่าเป็น Limited Edition อย่างที่ตั้งไว้เอาได้
MAZDA2 RACING SERIES 2012 แต่งอะไรมาบ้าง
เห็นอุปกรณ์แต่ละชิ้นแล้ว มันช่างยั่วน้ำลายไม่น้อย ถึงแม้ว่าบางอย่างก็มีอยู่แล้ว แต่ไม่รู้ว่าจะมีอยู่ในรายการของตกแต่งทำไม คงเป็นเพราะเปลี่ยนรูปร่างใหม่นิด ๆ หน่อย ๆ มั้ง มีอะไรบ้างไปดูกัน
• ชุดสเกิร์ตหน้าและกระจังหน้า ดีไซน์ใหม่ แบบฉบับ Sports Racing (ใช้เทคนิคใส่ NEW สีแดงกำกับ item ที่ใหม่ทุกอัน)
• สเกิร์ตหลัง ดีไซน์ใหม่แต่งพร้อมดิฟิวเซอร์ NEW
• สปอยเลอร์หลังคา ดีไซน์เฉพาะรุ่น NEW
• หลังคา Sports Black แต่งด้วยสติ๊กเกอร์กราฟฟิกแบบเงา
• ล้ออัลลอยด์ขอบ 16” สีพิเศษ สี Gun Metallic ดุดันขึ้นอีกขั้นกับยางซีรี่ส์ต่ำ
• เสาอากาศแบบสปอร์ต และปลายท่อสเตนเลส
• สติ๊กเกอร์กราฟฟิก Racing Series สัญลักษณ์ signature เฉพาะรุ่นพิเศษ
• สีภายนอกใหม่ สีเงิน Aluminum Metallic เฉพาะรุ่นพิเศษ
• เครื่องเล่น CD/MP3 แบบ 2-DIN และรีโมทดีไซน์ทันสมัย สั่งงานได้สะดวกจากทุกส่วนในห้องโดยสาร พร้อมฟังก์ชั่นตอบสนองทุกการฟังเพลงทุกไลฟ์สไตล์
o พอร์ท USB & AUX พร้อมไฟเรืองแสงบอกตำแหน่ง สะดวกใช้งานแม้เวลากลางคืน
o ฟังก์ชั่น Supreme ช่วยแต่งความคมชัดของเสียงเพลงจากไฟล์ MP3
o ฟังก์ชั่น My Playlist สำหรับ iPod พร้อม memory เพลงในตัว ช่วยเลือกเพลงโปรดได้รวดเร็วและง่ายดาย
o ฟังก์ชั่น Preset Equalizer ช่วยเลือกดนตรีให้เหมาะกับสไตล์เพลงที่เลือกฟัง
o ฟังก์ชั่น Color Illumination ลูกเล่นปรับเปลี่ยนสีไฟบนสกรีนช่วยให้ความเพลิดเพลิน
อุปกรณ์มาตรฐาน
• เครื่องยนต์ MZR 1500 CC พร้อมระบบวาลว์แปรผัน S-VT และระบบ TSCV ให้แรงบิดสูงและต่อเนื่องแบบ Flat Torque ตอบสนองรวดเร็วฉับไวตั้งแต่รอบต่ำ เหมาะสำหรับการขับในเมืองแบบ Stop ‘n Go
• ระบบเกียร์อัตโนมัติอัจฉริยะ 4-Spees A/Tควบคุมด้วยอิเล็กทรอนิกส์ พร้อมออฟชั่น Hold Mode ควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ได้เอง และให้ผู้ขับสามารถเรียกและรักษากำลังเครื่องยนต์ได้ตามที่ต้องการ
• พวงมาลัยเพาเวอร์ช่วยผ่อนแรงแบบอิเล็กทรอนิกส์ (EPAS)
• ช่วงล่างด้านหน้าแบบอิสระแม็คเฟอร์สันสตรัท และด้านหลังแบบกึ่งอิสระทอร์ชั่นบีม ช่วยให้เกาะถนนและเข้าโค้งได้อย่างมั่นใจ
• โครงสร้างตัวถังแบบ Ultra High Tensile Steel ให้ความแข็งแกร่ง ทนทาน และยืดหยุ่นสูง แต่น้ำหนักเบา ด้วยเทคโนโลยีไลท์เวท (Lightweight Technology) ที่ช่วยให้รถไม่ต้องแบกน้ำหนักส่วนเกินที่ไม่จำเป็น
• ผ่านการรับรองมาตรฐานความปลอดภัยสูงสุดระดับ 5 ดาว จากยูโร เอ็นแคป (Euro NCAP)
• ถุงลมนิรภัย SRS คู่หน้า ระบบเบรก ABS และ EBD เป็นอุปกรณ์มาตรฐานในทุกรุ่น
• หน้าจอ MID แสดงผลข้อมูลการขับขี่ได้หลากหลาย
• ปุ่มควบคุมเครื่องเสียงที่พวงมาลัย
• กระจกมองข้างปรับและพับไฟฟ้า
สำหรับรุ่นพิเศษมาสด้า2 สปอร์ต แฮตช์แบค 5 ประตู มาพร้อมกับเฉดสีที่มีเฉพาะรุ่นนี้ คือ สีเงิน อลูมินั่ม เมทัลลิก มีเพียง 123 คัน และยังมีสปอร์ตอย่างสีแดง และสีขาว อาคติคไวท์ อีก 377 คัน โดยมีราคาจำหน่ายอยู่ที่ 684,000 บาท และสำหรับในรุ่นเอลิแกนซ์ ซีดาน 4 ประตู มีให้เลือก 2 สี ประกอบด้วย สีเงิน อลูมินั่ม เมทัลลิก ซึ่งเป็นเฉดสีใหม่พิเศษเฉพาะรุ่น และสีขาว อาคทิคไวท์ มีราคาค่าตัว 671,000 บาท และมีปริมาณจำกัดเพียง 500 คัน (ทำไมมีมาน้อยจังอ่า…- -a!)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น