เปรียบเทียบ Olympus OM-D กับ Fuji X-E1 เอาอะไรดี

เทียบ OM-D E-M5 กับ X-E1 เลือกอะไรดีเกิดการเปรียบเทียบกันขึ้นมาจนได้ ระหว่าง Olympus OM-D E-M5 กับ Fuji X-E1 ซึ่งทางฝั่ง Fuji นั้นเปิดตัวมาได้แรง จนทำให้ค่ายอื่น ๆ ถึงกับหนาว ๆ ร้อน ๆ กันเลยทีเดียวกับ Fuji X-E1 ที่พกความสามารถมาเต็มที่ แถมรูปทรงยังน่าจับน่าถืออย่างมาก และแน่นอนว่างานนี้ทำเอาตากล้องที่เคยเล็ง ๆ E-M5 ไว้ ถึงกับเป๋เลือกไม่ถูกกันเลยทีเดียว ว่ากล้องทั้งสองตัวนี้ จะเลือกอะไรดี แถมราคาของ E-M5 และ X-E1 ก็ใกล้เคียงกันเสียด้วยสิ เอาเป็นว่ามาดูกันก่อน ว่าทั้งสองตัวนี้ มีอะไรที่โดนใจเหล่าตากล้องมากที่สุด

 

เซนเซอร์ของ EM5 และ X-E1

ที่ความละเอียด 16.3 mp เท่ากันก็จริง แต่หลาย ๆ คนอาจจะรู้อยู่แล้วว่า ทางฝั่ง X-E1 นั้น ใช้เซนเซอร์ตัวเดียวกันกับ X-Pro 1 ที่เคยพูดไว้ว่า ความละเอียดเทียบได้กับกล้อง Full Frame (และก็เทียบได้จริง ๆ ไม่ได้โม้ ^o^) แน่นอนว่าถ้าเรื่องเซนเซอร์ ทาง E-M5 อาจจะสู้ไม่ได้ แต่อย่าลืมว่า OM-D มีกันสั่นทั้ง 5 แกนเป็นภูมิคุ้มกันอยู่ ซึ่งช่วยได้มากพอสมควร (Fuji ก็มีกันสั่น แต่อยู่ที่เลนส์หมด) แต่มีอยู่ครั้งหนึ่ง ผมได้ดูวีดีโอ ที่นายตี๋ไก่ ได้ลองเอากล้อง OM-D EM-5 และ X-Pro 1 ไปถ่ายกลางคืน แล้วเปรียบเทียบภาพกัน พบว่าภาพของกล้องจาก X-Pro 1 คมชัดกว่ามากเหมือนกัน ดังนั้นถ้า X-E1 ใช้เซนเซอร์เดียวกัน ก็รับรองได้ว่า กิน OM-D เรียบอีกแหงม ๆ….- -!

หน้าจอ LCD

ถึงแม้เซนเซอร์จะสู้ไม่ได้ แต่ทาง OM-D E-M5 ก็ใส่ลูกเล่นมาเยอะแยะมากมาย ซึ่งหน้าจอขนาด 3 นิ้ว แบบทัชสกรีน แถมยังถ่ายภาพได้ เพียงแค่ เอานิ้วจิ้มบนหน้าจอแค่นั้นเอง แล้วยังสามารถกระดกจอ LCD ได้ เอาไว้เก็บภาพถ่ายในมุมมองแปลก ๆ ซึ่งที่กล่าวมาทั้งหมดเนี่ย…X-E1 เขาทำไม่ได้นะ..แถมหน้าจอ LCD แค่ 2.8 นิ้วเท่านั้นเอง…(คงไม่เน้น ถ่ายมุมแปลก ๆ มั้ง)

ช่องมองภาพแบบ EVF

ของ X-Pro 1 น่ะเขามีทั้ง OVF และ EVF แต่พอมาถึง X-E1 โดนตัด OVF ออกไปทำให้เหลือ EVF อย่างเดียวและก็เป็นเหตุผลให้ราคาของ X-E1 ถูกลงมาอีกมาโข …แน่นอนว่าทาง E-M5 ก็มีช่องมองภาพแบบ EVF เหมือนกัน ..แต่ถ้าดูให้ดี ๆ ความละเอียดของช่องมองภาพไม่เท่ากันนะ..เพราะว่า E-M5 มีความละเอียดแค่ 1.44 ล้านจุดแค่นั้น แต่ของ X-E1 นี่มีถึง 2.36 ล้านจุด สำหรับใครที่ชอบถ่ายรูปโดยใช้ช่องมองภาพ แน่นอนว่าความละเอียดยิ่งมากก็ยิ่งดี… แต่ถ้าเน้นถ่ายสนุก ได้มุมมองแปลก ๆ ช่องมองภาพความละเอียดพอใช้ได้…ก็คงต้องไปที่ OM-D แล้วล่ะ

การถ่ายถาพต่อเนื่องใครชนะ

ถ้าเรื่องความเร็วการถ่ายภาพต่อเนื่อง OM-D E-M5 คงเอาไปกิน..เพราะที่ความเร็ว 9 fps นั้นถือว่าเร็วมาก ๆ แล้ว เมื่อเทียบกับกล้องในปัจจุบัน ส่วนทาง X-E1 นั้นถึงจะแค่ 6 fps ก็ถือว่าไม่น้อยเหมือนกัน แต่เนื่องจากเราเทียบกันแค่สองตัวนี้ E-M5 เขาจึงชนะไป เพราะด้วยความเร็วขนาดนี้ จะไม่ทำให้คุณพลาด หรือพลาดภาพถ่ายสำคัญน้อยมาก ๆ 

AF (Auto focus) ใครเร็วกว่า

ยอมรับว่าถ้าเอา E-M5 ไปเทียบกับ X-Pro1 ซึ่งเป็นรุ่นก่อนหน้านั้น อาจจะเหมือนเต่ากับกระต่าย เพราะ E-M5 นั้นถือว่าเร็วมาก ๆ จริง ๆ แต่สำหรับ X-E1 ที่ได้ปรับปรุงเรื่อง AF มาพอสมควร จนเร็วขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ก็อาจจะพอสู้ได้อยู่บ้าง ลองคิดดูเอาว่า ยกกล้องปุ๊บ จับภาพปั๊บ กดภ่ายภาพแชะ เข้าไป โอกาสที่คุณจะได้ภาพเด็ด ๆ นั้น มันเยอะจริง ๆ

         แต่ในขณะเดียวกันความเร็วของ AF นั้นก็ไม่จำเป็นเท่าไร หากว่าคุณเป็นคนที่ชอบเลนส์มือหมุน คือหมุนหาโฟกัสเอาเอง..ไม่จำเป็นต้องพึ่งระบบออโต้ ซึ่งมันเป็นเสน่ห์ในการถ่ายภาพอีกอย่างหนึ่งเลยล่ะ

จำนวนเลนส์ที่มีให้เล่น

นี่ถือเป็นจุดเด่นของ OM-D เพราะเซนเซอร์ขนาด m4/3 นั้นมีเลนส์ให้เลือกเล่นมากมาย ทั้ง panasonicเอง ก็ใช้ขนาด m4/3 ด้วยเช่นกัน ส่วนทาง X-E1 อาจจะหาเลนส์ใช้ยากสักหน่อย..แต่ทุกตัวล้วนแต่แจ่ม ๆ ทั้งนั้น   จริง ๆ แล้วเราจะใช้เลนส์อะไรก็ได้ แค่ต้องหา Adapter มาแปลง แต่อาจจะใช้ความสามารถของเลนส์ได้ ไม่เต็มที่นัก…ถ้าชอบมือหมุน จะลองไปคบหากับ X-E1 ดูก็ได้…แต่ถ้าชอบใช้ AF ทาง E-M5 มีเลนส์ให้เลือกใช้เป็นเข่ง

รูปร่างหน้าตา

       เอาความคิดของผมเป็นหลักเลยแล้วกัน..จริง ๆ แล้วผมชอบระบบกันน้ำ กันฝุ่นของ OM-D E-M5 มาก ๆ ถึงมากที่สุด แต่ผมชอบรูปร่างของ X-E1 มากกว่า ด้วยเหตุผมแค่ว่า ชอบรูปร่างกล้องของ Leica เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว (ราคากล้อง Leica ดาวน์รถได้สบาย) ดังนั้นกล้อง Fuji X-E1 จึงเป็นกล้องที่โดนใจอย่างแรง แต่ใช่ว่า E-M5 จะมีรูปทรงไม่สวยนะ มันสวยถูกใจใครหลายคนเลยล่ะ แค่ผมชอบ X-E1 มากกว่าเท่านั้นเอง 

สุดท้ายเอา วีดีโอ ไปดูสักหน่อยแล้วกัน..

 

เอาไปดูอีกตัว

1 ความคิดเห็น:

Related Posts Plugin for WordPress, Blogger...